บริษัท ปตท.ได้นำผู้นำชุมชนในเขตเทศบาลนครแหลมฉบังจำนวน 12 ชุมชนพร้อมเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการและสังคมเทศบาลนครแหลมฉบัง ไปสัมมนาและศึกษาดูงานในจังหวัดระยองและจังหวัดจันทบุรี เวลา 06.00 น.ผู้นำชุมชนทั้งหมดได้ลงทะเบียนพร้อมกันที่เทศบาลนครแหลมฉบัง โดบบริษัท ปตท.ได้จัดรถบัสจำนวน4คันและพร้อมออกเดินทางมุ่งสู่จังหวัดระยอง
ทั้งหมดได้เดินทางถึงสวนสมุนไพร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับฟังการบรรยายสรุปความเป็นมาของสวนสมุนไพรและการก่อตั้งโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง หลังจากนั้นได้นั่งรถที่ทาง ปตท.จัดเตรียมไว้เข้าชมสวนสมุนไพรและสนามฟุตบอล สโมสรพีทีทีระยอง ซึ่งอยู่ภานในบริเวณสวนสมุนไพร
นั่งรถชมรอบๆบริเวณสวนสมุนไพรและฟังการบรรยายของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสมุนไพร
สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อ.เมืองระยอง จ.ระยอง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สร้างสวนสมุนไพรแห่งนี้ขึ้นภายใต้แนวคิด มิติการเรียนรู้ด้านสมุนไพรอย่างสนุกสนานเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์สมุนไพรมากกว่า 20,000 ต้น (260 ชนิดโดยจัดกลุ่มจำแนกตามสรรพคุณการรักษาตามคัมภีร์ยาไทยโบราณ; 20 กลุ่มอาการ) เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม พักผ่อนหย่อนใจ และศึกษาหาความรู้ด้านพฤษศาสตร์และสมุนไพร แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่- อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษาซึ่งประกอบด้วยห้องประชุมสัมนา ห้องนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทย ทั้งที่ควรอนุรักษ์และที่ใกล้ตัวในวิถีชีวิตประจำวันโดยมีมัคคุเทศก์บรรยายและนำชมตลอดเส้นทาง โดยไม่เสียค่าใช้ใดๆทั้งสิ้น ในส่วนสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะมีการชมโดยรถ NGV (รถที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ) โดยมีมัคคุเทศก์บรรยายและนำชมตลอดเส้นทางเช่นเดียวกัน โดยรถ NGV จะออกทุก 30 นาที (ตามตารางรอบกำหนด) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ทางส่วนสมุนไพรฯ ยังได้จัดให้มีร้านค้าส่วนบริการ ได้แก่ ร้านอาหารเครื่องดื่ม ร้านขายของที่ระลึก และร้านนวดเพื่อสุขภาพ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่บริเวณศูนย์บำรุงรักษาและบ้านพัก ปตท. บนถนนทางหลวงหมายเลข 3191 ต.มาบข่า กิ่งอ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เปิดทำการวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์)
สโมสร พีทีที ระยองอยู่ลำดับกลางๆตารางของไทยลีค
หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังโรงแยกก๊าซธรรมชาติเพื่อเยี่ยมขบวนการผลิตก๊าซธรรมชาติ
จากนั้นได้เดินทางไปดูงานที่ชุมชนเกาะกก
จากจุดเริ่มของการรักษาแปลงนาผืนสุดท้ายแล้ว นำมาสู่การปลูกข้าวคุณภาพเพื่อเลี้ยงชุมชน ซึ่งพื้นที่บางส่วนเป็นที่ลุ่ม อยู่ติดคลองมีน้ำไหลผ่านชุมชน จึงเหมาะแก่การเพาะปลูก ในผืนนาจึงมีปลูกข้าวหลายชนิด อาทิ ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ ข้าวกล้องหอมนิล ข้าวกล้องสังข์หยด ข้าวหอมมะลิ ซึ่งสายพันธุ์ข้าวกล้องต่างๆ เหล่านี้ ชุมชนได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นำมาปลูกในพื้นที่ ได้ผลผลิตดี ราคางาม อีกทั้ง “ต้นทุน” การนำข้าวเปลือกมาเป็นเมล็ดข้าว มีต้นทุนน้อย ด้วยคนในชุมชนมาช่วยกันสีข้าว นำมาบรรจุถุงจำหน่ายในร้านค้าของกลุ่มในชุมชน
“จากข้าวกล้องสุขภาพของชุมชนเกาะกกยังต่อยอดออกไปอีกขั้น มาเป็นขนมยามว่าง ข้าวไรช์เบอรี่ สแนคบาร์ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการจำหน่ายข้าว ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ข้าวต่างๆ ยังส่งจำหน่ายที่มูลนิธิชัยพัฒนา และศูนย์การค้าต่างๆ สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนเป็นอย่างมาก”
นอกจากปลื้มผลิตภัณฑ์ข้าวกล้องของดีชุมชนเกาะกกแล้ว สำราญ ประธานกลุ่มฯ ยังมองไปข้างหน้าอีกว่า
“ชุมชนเกาะกกตั้งเป้าหมายจะขยายเครือข่ายพื้นที่ปลูกข้าวเพิ่มอีกกว่า 140 ไร่ อีกทั้งยังคงอนุรักษ์ประเพณีลงแขกดำนาเกี่ยวข้าว และรักษาวัฒนธรรมงานบุญประเพณีของชุมชน ที่เป็นการรวมตัวของคนจากหลายภูมิภาคให้สืบสานด้วย”
หลังจากเยี่ยมชมและฟังการบรรยายจากผู้นำชุมชนเกาะกกแล้วได้เดินทางไปรับทานอาหารที่ร้านตำนานป่า
รับประทานอาหารอิ่มมีเรี่ยวมีแรงแล้วขบวนผู้นำชุมชนได้เดินทางมุ่งสู่จังหวัดจันทบุรี
ศูนย์อัญมณีจังหวัดจันทบุรี
หลังจากฟังบรรยายสรุปความเป็นมาของการกำเนิดพลอยของจังหวัดจันทบุรีแล้ว ทั้งหมดขึ้นรถบัสเดินทางไปสักระศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินและศาลหลักเมืองจันทบุรี
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากจังหวัดจันทบุรี
จากนั้นได้เดินทางไปรับประทานอาหารที่ร้านปลาทู
รับประทานอาหารเย็นแล้วเข้าพักที่โรงแรมนิวทราเวลพักผ่อนเอาแรงพร้อมที่จะทำกิจกรรมต่อใในวันต่อไป
กิจกรรมวันที่ 2 กับ ปตท.ห้องมณีทิพย์
สนุกสนามกับการเล่นเกมส์และจัดให้แต่ละชุมชนนำเสนอความประทับกับ ปตท. โดยให้แต่ละชุมชนเขียนถึงความประทับใจที่ ปตท.ได้ร่วมกิจกรรมแต่ละชุมชนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
หลังจากนั้นได้รับประทานอาหารมื้อกลางวันและพร้อมที่จะเดินทางต่อไปยัง รัตนะรีสอร์ท
ทั้งหมดเข้าที่พักพักผ่อนตามอัธยาศัยและเตรียมพร้อมล่องแพเปียกชมป่าโกงกางและนกเหยี่ยวแดง
ก่อนลงแพจัดสักหน่อย
ล่องแพชมธรรมชาติ
สนุกสนานก่อนงานเลี้ยงคืนนี้
พี่จุ๋มเจ้าหน้าที่ ปตท.หนุ่มใหญ่สไตล์ครันทรี่
สีสันงานเลี้ยงจัดเต็ม
ทีมงานชุมชนบ้านเขาน้ำซับ
สำหรับงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีการประกวดเครื่องแต่งกายสีสันสไตล์ผลไม้ซึ่งชุมชนที่ได้อันดับ1 คือชุมชนวัดประทานพร และมีการประกวดร้องเพลงพร้อมเเด้นเซอร์ชุมชนบ้านเขาน้ำซับได้อันที่3 ไปครองพร้อมของรางวัลขนมแก๊บแก๊บคนละห่อ
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา เข้าห้องพัก พักผ่อนร่างกายไว้สำหรับการเดินทางวันที่3
รับประทานเช้าที่รัตนะรีสอร์ทแล้วเตรียมเดินทางต่อไปไหว้พระที่โบสถ์สีน้ำเงินเสร็จแล้วเดินทางไปอ่าวคุ้งกระเบนเพื่อไปชมโครงการพระราชดำหริใในหลวงรัชการที่9
อีกหนึ่งโครงการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ และความห่วงใยที่พระองค์ทรงมีต่อราษฎรในพื้นที่ต่าง ๆ นั่นก็คือ "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน"
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน สร้างขึ้นเพื่อทำการฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรชายฝั่งหรือป่าชายเลนอย่างยั่งยืน ตั้งอยู่ที่อ่าวคุ้งกระเบน ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่รอบชายฝั่งประมาณ 2,000 ไร่ และถ้ารวมพื้นที่รอบนอกในเขตตำบลคลองขุด ตำบลสนามไชย และพื้นที่ใกล้เคียงที่เป็นเขตหมู่บ้านประมงตลอดแนวชายฝั่งทะเล อีกทั้งเขตเกษตรกรรมแล้ว ก็จะมีพื้นที่ราว 32,000 ไร่
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วป่าชายเลนมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์อย่างมาก เพราะเป็นพื้นที่ป่าที่มีพืชพันธุ์ต่าง ๆ ที่สามารถนำไปทำฟืนที่มีคุณภาพดี หรือใช้ทำหมึก สีกาว และสารฟอกหนังได้เช่นกัน
ส่วนในมุมมองด้านการประมงนั้น จะสามารถมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่าป่าชายเลนคือแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์กุ้งและปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ เพราะบริเวณป่าชายเลนจะมีคลื่นไม่แรงมาก ทำให้สัตว์น้ำตัวเล็ก ๆ สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ และเศษกิ่งไม้และใบไม้ต่าง ๆ ในผืนป่าแห่งนี้ ก็เป็นแหล่งอาหารชั้นดีให้กับสัตว์น้ำตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ด้วย
นอกจากนี้ ป่าชายเลนก็ยังช่วยลดความแรงของคลื่นที่เข้ามากระทบชายฝั่งได้เป็นอย่างดี เพราะแรงกระแทกของคลื่นจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับที่อยู่อาศัยริมน้ำได้ อีกทั้งป่าชายเลนยังช่วยกรองของเสียก่อนลงสู่ทะเลได้บางส่วน ทำให้ของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมไหลลงสู่ทะเลน้อยลง
แต่ด้วยภาวะปัจจุบันที่พื้นที่ป่าชายเลนลดน้อยลงมาก เพราะมีการบริโภคและมีความต้องการมากจนเกินไป สาเหตุที่สำคัญคือการตัดไม้ทำลายป่า เพราะพืชพันธุ์บริเวณป่าชายเลนนั้นสามารถนำไปใช้ทำฟืนได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อทำฟาร์มกุ้งต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องหนึ่งที่น่ากังวล คือ การอนุรักษ์ป่าชายเลนนั้นยังทำไม่ได้อย่างต่อเนื่อง จึงยากที่จะกลับมาอุดมสมบูรณ์ได้เหมือนเดิม
ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเห็นความสำคัญของป่าชายเลน จึงมีพระราชดำริในการจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ซึ่งเป็นศูนย์การอบรมและเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการศึกษาวิจัย เพื่อช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนบริเวณนั้นให้ดีขึ้น และช่วยพัฒนาอาชีพประมงขั้นพื้นฐาน ตลอดจนพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลให้มีผลผลิตที่มากขึ้นด้วย
ปัจจุบันศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนเป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ให้ความรู้กับผู้คนที่มาเยี่ยมชม เพื่อสร้างความเข้าใจและมองเห็นความสำคัญของป่าชายเลนให้มากขึ้น ทั้งยังเป็นที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะการที่เราได้เห็นสัตว์และพืชพันธุ์ต่าง ๆ ที่เราไม่มีโอกาสเห็นในชีวิตประจำวันนั้น ถือเป็นการเปิดโลกของการเรียนรู้ใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี
ฟังการบรรยายโครงการพระราชดำหริของในหลวงรัชกาลที่9 ในการพัฒนาป่าโกงกาง การเพราะเลี้ยงกุ้ง และการดำเนินงานต่างๆของโครงการ
หลังจากรับฟังการบรรยายแล้วเจ้าหน้าที่ศูนย์พาเดินชมโครงการอนุรักษ์ชายเลนป่าโกงกางและวิธีชีวิตสัตว์น้ำที่อาศัยตามแนวชายเลน
เจ้าหน้านำเดินทางชมชายป่าโกงกางพร้องบรรยายให้ผู้นำชุมนฟัง
บ่อบำบัดน้ำเสียโดยธรรมชาติบำบัดของโครงการในหลวง
หลังเดินชมโครงการพระราชดำหริของในหลวงแล้วได้เินทางไปรับประทานอาหารที่ร้านยายตุ๊
ร้านอาหารยายตุ๊
อาหารอร่อยหรือไม่ ไม่ต้องบอกนะครับดูที่ภาพ ทุกอย่างเกลี้ยงครับ
จากนั้นทั้งหมดก็เดินทางกลับสู่นครแหลมฉบัง จังหวัดลบุรีโดยสวัสดิภาพ
ชุมชนบ้านเขาน้ำซับต้องขอขอบคุณบริษัท ปตท.ที่ได้จัดสัมมนาดูงานในภาคตะวันออกในครั้งนี้ เพื่อที่ผู้นำชุมชนจะได้เก็บความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาท้องถิ่นต่อไป